พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549
บทนิยามและการอธิบายของพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549
พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 หรือที่รู้จักกันในชื่อเต็มว่า “พรบ.ทางหลวงพ.ศ. 2549” เป็นกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหารจัดการทางหลวงในประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการก่อสร้างและดูแลรักษาทางหลวงเพื่อให้เป็นทางขนส่งที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ประวัติและการเปลี่ยนแปลงของพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549
พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 เริ่มต้นจากการเกิดความจำเป็นในการปรับปรุงโครงสร้างทางหลวงในประเทศไทย เนื่องจากการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจและสังคมไทย ทำให้ทางหลวงอย่างหลากหลายมีความจำเป็นต้องถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตที่รวดเร็วในประเทศ ด้วยเหตุดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2546 รัฐบาลได้มีความประสงค์ที่จะทำการแก้ไขและปรับปรุงทางหลวงเพื่อรองรับการเข้าถึงทางหลวงจากประชาชนได้อย่างสะดวกและมีความปลอดภัย จนในปี พ.ศ. 2549 พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 ได้รับการออกในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีการบริหารจัดการทางหลวงที่มีความเป็นระบบ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางวิศวกรรมอย่างมีคุณภาพ
ความสำคัญและผลกระทบของพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549
พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการทางหลวงในประเทศไทย เพราะเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถูกต้องในการพัฒนาและดูแลรักษาทางหลวงเพื่อให้เป็นทางขนส่งที่มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่ง โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดของพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 คือการกำหนดหลักเกณฑ์และกรอบควบคุมในการออกแบบ ก่อสร้าง ดูแลรักษา และปรับปรุงถนนทางหลวง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ทางหลวงมีคุณภาพมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับ
นอกจากนี้ พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 ยังมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการทางหลวงในประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องการจัดทางเดินพนักงานทางหลวง การบอกระยะทาง ระเบียบและกฎกระทรวง การควบคุมความเร็ว และการตรวจสอบความปลอดภัยบนทางหลวง
งานตรวจสอบและการดำเนินคดีสังคมในพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549
พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 ระบุหน้าที่สำคัญของหน่วยงานด้านทางหลวงในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ดำเนินคดีสังคม และรับเรื่องเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 ได้แก่ กรมทางหลวง กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทางหลวงชนบท ส่วนกลางและภูมิภาค กรมสะท้อนแสงและเครื่องหมายทางจราจร ตำรวจทางหลวง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
หน้าที่และอำนาจของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549
โดยสรุปแล้ว หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549 ได้แก่
– กรมทางหลวง: มีหน้าที่กำหนดนโยบาย และมาตรฐานในการสร้างและดูแลรักษาทางหลวง รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมทางหลวงให้มีความปลอดภัยสูงสุดและมีคุณภาพในการใช้งาน
– กรมอุตุนิยมวิทยา: รับผิดชอบในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ คลื่นความถี่วิทยุ และฝุ่นละอองที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อการจราจร
– กรมทางหลวงชนบท: มีหน้าที่ในการพัฒนาและปรับปรุงทางหลวงเครื่องควบคุมบริหารจัดการที่เหมาะกับการใช้งานทางหลวงแบบชนบท
– กรมสะท้อนแสงและเครื่องหมายทางจราจร: เป็นหน่วยงานที่กำหนดการติดตั้งและดูแลรักษาสัญญาณการจราจรที่เตือนให้ผู้ใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจร
การประยุกต์ใช้และการปฏิบัติตามข้อบังคับของพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2549
การประยุกต์ใช้และการปฏิบัติตามข้อบังคับของพระราชบัญญัติทา
พรบ ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 1-49
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549 พร บ ขอ เชื่อม ทาง กรม ทางหลวง 2565, ทางหลวงแผ่นดิน, พร บ จราจรทางบก, พระราชบัญญัติ ทางหลวง พ ศ 2535 เกี่ยว กับ อะไร, พรบ จราจรทางบก 2565, RIGHT of WAY กฎหมาย, ประเภทถนน
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549
หมวดหมู่: Top 37 พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549
ดูเพิ่มเติมที่นี่: maucongbietthu.com
พร บ ขอ เชื่อม ทาง กรม ทางหลวง 2565
พรบ. ขอเชื่อมทางกรมทางหลวง พ.ศ. 2565 เป็นกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีการกำหนดเกณฑ์และข้อกำหนดในการขอเชื่อมทางของแต่ละบริษัท เพื่อลดปัญหาและช่องว่างที่อาจเกิดขึ้นในการทางานชิ้นงานนี้ ในบทความนี้เราจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายนี้และวัตถุประสงค์ของมันได้อย่างละเอียด
ทางหลวงในประเทศไทยเป็นสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมการเคลื่อนย้ายของประชากรและสินค้า กำหนดเวลาที่จะใช้ในการขอเชื่อมทางนั้นค้นเจอมีขั้นตอนและเงื่อนไขที่ซับซ้อน ทำให้มีระยะเวลาที่ยาวนานในการดำเนินการต่างๆ กันอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น พรบ. ขอเชื่อมทางกรมทางหลวง พ.ศ. 2565 ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดปัญหาและปรับปรุงกระบวนการทำงานในการขอเชื่อมทาง ซึ่งสามารถสร้างความโปร่งใสและลดเวลาในการดำเนินการของผู้ร้องขอ
กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดความซับซ้อนในกระบวนการที่เกิดขึ้นในด้านการขอเชื่อมทาง ก่อให้เกิดความมุ่งมั่นในการปรับปรุงการดำเนินงาน ลดปัญหาบริษัทที่ได้รับอนุญาตในการขอเชื่อมทาง และเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการกำหนดเงื่อนไขและการให้สิทธิ์ในการขอเชื่อมทาง
ในขณะที่กฎหมายนี้ถูกออกตั้งขึ้นเพื่อทำให้กระบวนการที่ซับซ้อนนี้ทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สิ่งที่คุณควรทราบคือรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการในการขอเชื่อมทาง ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ที่บริษัทจะต้องทำ ดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: การตั้งค่าระบบ
เมื่อบริษัทต้องการขอเชื่อมทาง จะต้องแนะนำระบบปฏิบัติการเข้าถึงผู้ประสานงานในระบบ การติดต่อสื่อสาร, และการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้น และต้องมีระบบที่เข้าถึงได้เฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 2: การลงทะเบียน
บริษัทจะต้องจดทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะต้องยื่นข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบริษัท รวมถึงรายละเอียดของเส้นทางที่ต้องการขอเชื่อม และแนบเอกสารหลายประเภท เช่น แผนที่เส้นทางที่ต้องการขอเชื่อม ใบอนุญาตธุรกิจ ใบประกอบธุรกิจ และอื่นๆ
ขั้นตอนที่ 3: การรออนุญาต
หลังจากได้ทำการลงทะเบียนในขั้นตอนที่ 2 บริษัทจะต้องรอการพิจารณาและอนุญาตจากกรมทางหลวงว่าสามารถขอเชื่อมทางได้หรือไม่ การพิจารณานี้อาจใช้ระยะเวลาสั้นหรือยาวขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของข้อมูลที่ได้รับจากบริษัท
ขั้นตอนที่ 4: การกำหนดเงื่อนไขและสิทธิ์ในการขอเชื่อมทาง
หากการขอเชื่อมทางได้รับอนุญาต การกำหนดเงื่อนไขและสิทธิ์ในการขอเชื่อมทางจะถูกแสดงในระบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อบริษัทได้รับสิทธิ์ในการขอเชื่อมทางแล้ว จะเป็นไปตามกฎหมายและจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวทุกครั้งที่มีการขอเชื่อมทางเกิดขึ้น
ต่างจากกฎหมายเดิม
พรบ. ขอเชื่อมทางกรมทางหลวง พ.ศ. 2565 มีจุดแตกต่างกับกฎหมายเดิม คือ:
1. การติดตามให้บริษัทผู้ขอเชื่อมทางรับผิดชอบในการตรวจสอบและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการขอเชื่อมทางให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติตามหน้าที่ในการพิจารณาขอเชื่อมทางให้ถูกต้องและไม่ลำเลิกกระบวนการต่างๆ ดังนั้น บริษัทสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการพิจารณาที่ถูกต้องและมีความโปร่งใสในกระบวนการ
3. บริหารงานขององค์กรจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายและต้องได้รับการตรวจสอบโดยภายนอกเพื่อให้ผู้ขอเชื่อมทางทราบถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย
FAQs:
Q1: กฎหมายนี้มีผลกระทบต่อบริษัทที่ยังไม่ได้ขอเชื่อมทางหรือไม่?
A1: ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัทที่ยังไม่ได้ขอเชื่อมทาง กฎหมายนี้จะมีผลกระทบกับบริษัทที่ต้องการขอเชื่อมทางเท่านั้น
Q2: อาจารย์ท่านคิดว่าข้อได้เปรียบของกฎหมายนี้คืออะไร?
A2: ข้อได้เปรียบของกฎหมายนี้คือการปรับปรุงกระบวนการในการขอเชื่อมทางที่ซับซ้อน ลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการ
Q3: กระบวนการได้เคยเป็นแบบเดียวกับนี้ตลอดเวลาหรือไม่?
A3: ไม่เคย ก่อนกฎหมายนี้มีผล เงื่อนไขและกระบวนการการขอเชื่อมทางมีความซับซ้อนและปัญหาในการดำเนินงาน
Q4: บริษัทจะสามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างไร?
A4: บริษัทสามารถติดตามความคืบหน้าได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานะของการขอเชื่อมทาง
Q5: กฎหมายนี้มีผลกระทบต่อผู้ร้องขอที่มีข้อมูลปลอมหรือไม่สมบูรณ์หรือไม่?
A5: ใช่ บริษัทจะต้องยื่นข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด หากตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลปลอมหรือขาดหาย อาจส่งผลให้การขอเชื่อมทางถูกปฏิเสธ
ทางหลวงแผ่นดิน
การสร้างทางหลวงแผ่นดินมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสถานีบริการซึ่งจะช่วยให้มีทางขนส่งคมนาคมที่สะดวกและรอบคอบ ทางหลวงแผ่นดินโค้งไปมาตามภูมิประเทศอย่างสายลึกซึ้ง ตลอดจนมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามให้ผู้เดินทางได้เห็นอุดมการณ์และธรรมชาติที่งดงามของประเทศไทย
การขยายทางหลวงแผ่นดินในตอนแรกมีมาตรการพิเศษที่ได้รับการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคม ซึ่งจุดเน้นเป็น การเชื่อมต่อขนส่งมวลชน การพัฒนาสายขอบเขตและเส้นทางขนส่งสินค้า รวมทั้งการลดรอยรั่วเพื่อความปลอดภัยคมนาคม
ขณะนี้มีทางหลวงแผ่นดินที่ดำเนินการสร้างหรือก่อสร้างอยู่ 29 สาย และยังมีแผนที่ต้องการสร้างเส้นทางสายทางหลวงแผ่นดินอื่นๆอีกหลายแห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง และช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย
นอกจากนี้ ทางหลวงแผ่นดินยังเป็นทางหลวงที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆสามารถใช้ทางหลวงแผ่นดินเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างสะดวกและง่ายดาย บริเวณรอบทางพายุตรุษจีน หรือกลุ่มผู้ที่ไปตลาดนนทรี สามารถใช้ทางเข้าชมชุมชนจีนและตลาดนนทรีได้สะดวก
สำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทางหลวงแผ่นดิน ได้แก่
คำถาม 1: ทางหลวงแผ่นดินมีสถานีบริการอะไรบ้าง?
คำตอบ: ทางหลวงแผ่นดินมีสถานีบริการหลากหลายประเภท รวมถึงสถานีบริการน้ำมัน ห้องน้ำสาธารณะ ศูนย์บริการเครื่องยนต์ และร้านค้าต่างๆ เพื่อให้คนที่เดินทางสามารถพักผ่อนและใช้บริการต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย
คำถาม 2: การเดินทางด้วยทางหลวงแผ่นดินมีความปลอดภัยหรือไม่?
คำตอบ: ทางหลวงแผ่นดินมีระบบที่คอยให้ความปลอดภัยและเสถียรภาพในการเดินทาง โดยมีกฎระเบียบการใช้ทางเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ รวมทั้งมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาทางหลวงเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง
คำถาม 3: ต้องเสียค่าบริการเมื่อใช้ทางหลวงแผ่นดินหรือไม่?
คำตอบ: การใช้ทางหลวงแผ่นดินมีค่าบริการที่ต้องเสียตามระยะทางที่ใช้เดินทาง ราคาจะแตกต่างกันตามประเภทรถที่ใช้ โดยทางหลวงแผ่นดินมีทางเลือกให้ผู้ใช้ทางได้เลือกทางจ่ายเงินล่วงหน้าที่สถานีบริการหรือผ่านระบบการอ่านค่าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
คำถาม 4: ทางหลวงแผ่นดินมีสิ่งอำนวยความสะดวกใดบ้าง?
คำตอบ: ทางหลวงแผ่นดินมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมทั้งการบริการห้องน้ำ ร้านอาหาร ที่จอดรถ และสถานีบริการต่างๆตามเส้นทาง ทำให้ผู้ใช้ทางสามารถทำกิจกรรมและพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย
ทางหลวงแผ่นดินเป็นทางเลือกที่ยอดเยียนสำหรับการเดินทางในประเทศไทย ทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังจังหวัดหรือเขตภายในประเทศสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ส่วนใครที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติไทย ทางหลวงแผ่นดินเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการเดินทางและค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆได้อีกด้วย
พร บ จราจรทางบก
ในปัจจุบันการใช้รถยนต์ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการดำเนินชีวิตประจำวันของคนไทยและประชากรทั่วโลก การเดินทางด้วยรถยนต์ให้มีความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ด้วยเหตุนี้ทำให้ได้พร บ จราจรทางบก ที่ได้ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและการเคลื่อนที่ที่ดีขึ้นในเรื่องของการติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์ที่เดินทางบนท้องถนน
พร บ จราจรทางบก เป็นกฎหมายที่จัดลงเพื่อรักษาความปลอดภัยที่ดูแลการใช้ถนนทางบก โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์สาธารณะ ปรับปรุงข้อบังคับและระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการเลียนแบบรถยนต์รวมทั้งการจดทะเบียนแต่ละชนิดของยานพาหนะ รวมทั้งกำหนดเกณฑ์หลักในการขับขี่และโครงสร้างทางหลวงเพื่อความปลอดภัย
ก่อนจะมี พร บ จราจรทางบก การขับขี่ที่ต้องทำการจดทะเบียนกับสำนักงานขนส่งทางบกก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน การจดทะเบียนมีลักษณะเป็นการลงทะเบียนรถยนต์เพื่อยืนยันว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์มีสิทธิ์ที่จะครอบครองและใช้รถยนต์ดังกล่าวได้ ผู้ถือกรรมสิทธิ์จะต้องนำเอกสารเช่นบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ผู้ถือสิทธิ์ในกรณีที่ไม่ใช่เจ้าของ มายื่นลงทะเบียนร่างกำกับกิจกรรมทางหน่วยงานขนส่งทางบกในกลุ่มที่มีสิทธิ์ครอบครอง
พร บ จราจรทางบก ยังกำหนดเกณฑ์การขับขี่ที่ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตาม เช่น นำใบขับขี่ออกมาขณะขับขี่ เพราะถือเป็นเอกสารที่ยืนยันว่าผู้ขับขี่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการขับขี่ในที่ความปลอดภัย นอกจากนี้ยังต้องปฏิบัติตามกฎอื่นๆ เช่น การใช้คันทรัพย์หน้าเจาะและหลังปลั๊กน้ำมันเพื่อสร้างความปลอดภัยระหว่างการขับขี่ และมีบัญชีที่ครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของรถยนต์เพื่อตรวจสอบแถบการเดินเครื่องจักรและอื่นๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยของรถยนต์
การละเมิดกฎหมายทางจราจรที่ระบุใน พร บ จราจรทางบก มีความหลากหลายและมากมาย อาจเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎที่ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ หรือการกระทำร้ายแรงที่เกิดจากการขาดความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยขณะขับขี่ การละเมิดกฎหมายในปัจจุบันนั้นส่วนมากจะถูกบันทึกเข้าสู่ระบบด้วยกล้องวงจรปิดและบันทึกภาพวันเวลาที่เกิดเหตุการณ์ เพื่อให้ตรงตามกฎหมายรับผิดชอบต่อการกระทำที่น่าเสียดาย
FAQs:
Q: พรบ จราจรทางบก เป็นกี่เวอร์ชั่นและถูกแก้ไขเมื่อใดครั้งล่าสุด?
A: พร บ จราจรทางบก มีกฎหมายกี่เวอร์ชั่น ซึ่งภายใต้การกำหนดของรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ ไม่ได้มีการแก้ไขล่าสุด
Q: การละเมิด พรบ จราจรทางบก มีโทษปรับอย่างไร?
A: การละเมิด พร บ จราจรทางบก อาจมีโทษปรับตามลำดับแบ่งเป็นรายประเภท ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงปรับสูงสุดที่กำหนดในพร บ จราจรทางบก
Q: ฉี่ชาบูหรือไม่จัดการใน พร บ จราจรทางบก?
A: พร บ จราจรทางบก ไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับการจัดการในร้านอาหารหรือคาเฟ่ลงในกฎหมายของมัน
มี 18 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549.
ลิงค์บทความ: พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ พ ร บ ทางหลวง พ ศ 2549.
- พระราชบัญญัติ – ทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ – ราชกิจจานุเบกษา
- พ.ร.บ. ทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 – MOTORWAY
- พระราชบัญญัติทางหลวง(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549
- พระราชบัญญัติ – กรมทางหลวง | DEPARTMENT OF HIGHWAYS
- พระราชบัญญัติทางหลวง (ฉ.2) พ.ศ.2549 | donkaewlocal
- พระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549
- สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ ทางห
- พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2549
- พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม … – Scribd
- พระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบบับที่ 2) พ.ศ. 2549
ดูเพิ่มเติม: https://maucongbietthu.com/category/after-hours